วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ทำไมปาท่องโก๋ต้องมีสองข้าง


ทำไมปาท่องโก๋ต้องมีสองข้าง
   ตำนานปาท่องโก๋มีที่มาจากนายทหารจีนผู้หนึ่ง นามว่า งักฮุยรับราชการในแผ่นดินพระเจ้าเกาจง งักฮุยเป็นนายทหารที่ซื่อสัตย์เข้มแข็ง ช่วยแผ่นดินปราบกบฏ รบกองโจร เป็นที่รักใคร่ของประชาชนทั่วไป ศึกครั้งสำคัญก็คือการทำสงครามกับพวกกิม ซึ่งเป็นชนชาติเร่ร่อนพเนจรแถบภาคอีสานของจีนใกล้กับเกาหลี งัก ฮุยรบจนเกือบชนะอยู่แล้ว แต่ก็ได้รับพระบรมราชโองการให้ยกทัพกลับ ทั้งนี้เนื่องจากฉิ่งไขว่ มหามนตรีผู้ลอบสวามิภักดิ์ต่อพวกกิมคอยเพ็ดทูลยุยงส่งเสริมพระเจ้าเกาจงให้ เจรจายุติสงครามกับพวกกิมงักฮุยเสียใจมากถึงกับกล่าวว่าเสียแรงที่เราบากบั่นต่อสู้พวกกิมด้วยความยากลำบากเป็นเวลาถึง ๑๐ ปี ความอุตสาหะนั้นจะต้องพินาศลงชั่วเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น
     ครั้นกลับมาแล้วก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นข้าราชการชั้นองคมนตรีแต่ฉิ่งไขว่และพรรคพวกได้คอยหาโอกาสกำจัดงักฮุยเสีย จึง คอยใส่ร้ายป้ายสีหาว่างักฮุยคิดกบฏ จนในที่สุดงักฮุยและบุตรถูกจับไปจำขังอยู่ในเรือนจำเป็นเวลา ๒ เดือน แต่รูปคดีไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะงักฮุยไม่มีความผิดแต่ประการใด ฉิ่งไขว่จึงลอบมีหนังสือลับไปยังพัสดีเรือนจำให้สังหารงักฮุยเสีย
     การ สิ้นชีพอย่างน่าอนาถของวีรบุรุษงักฮุยผู้นี้จึงกลายเป็นธรรมเนียมของประชาชน ชาวจีนให้นำแป้งสาลีมาปั้นเป็นชิ้นสองชิ้นติดกันแล้วทอดน้ำมัน เรียกว่า 'อิ้วจาก้วย' (ไทยเรียกเพี้ยนเป็น  'ปาท่องโก๋ซึ่งที่จริงแล้วเป็นขนมคนละชนิดกัน) ทั้งนี้เพื่อแสดงความเคียดแค้นในตัวฉิ่งไขว่  โดยเปรียบเนื้อแปังสาลีเป็นเนื้อของฉิ่งไขว่และภรรยานำมาทอดน้ำมันกินให้หายแค้น

การห้ามเผาศพในวันศุกร์


เสฐียรโกเศศเล่าไว้ในหนังสือ  'การตาย' ว่า  การห้ามเผาศพในวันศุกร์นั้น  เป็นสิ่งที่ฝรั่งเรียกว่า sympathetic magic คือ สิ่งใดมีลักษณะคล้ายคลึงกัน สิ่งนั้นก็เป็นผลเหมือนกัน วันศุกร์ชื่อก็บอกว่า  สุข  ถึงจะมีคำแปลต่างกัน แต่เสียงเหมือนกันก็ขึ้นชื่อว่า  สุขอยู่นั่นเอง  ถือกันว่าเป็นวันดี
          การ เผาผีถือเป็นเรื่องไม่เป็นมงคล ถ้าเผาในวันศุกร์ ก็อาจจะถูกลากให้ความสุขได้รับอิทธิพลของความไม่เป็นมงคล ทำให้กลายเป็นทุกข์ไปได้ บางทีก็เชื่อกันว่า 'เผาผีวันศุกร์ให้ทุกข์แก่ญาติ'
          แต่ ก่อนถือกันว่า  ห้ามเผาศพในวันคู่ข้างขึ้น  วันคี่ข้างแรมเป็นอัปมงคล เรียกว่า ผีเผาคน ต้องเผาวันคี่ข้างขึ้น วันคู่ข้างแรม  เรียกว่า  คนเผาผี เพราะแรม  ๑  ค่ำ  เท่ากับวันที่  ๑๖  ของเดือนกลายเป็นวันคู่ไป  ส่วนวันแรม ๒ ค่ำ เท่ากับวันที่  ๑๗  ของเดือนกลายเป็นวันคี่ไป เพราะฉะนั้นการเผาวันคู่ในข้างแรมจึงเท่ากับเป็นวันคี่เหมือนกัน ที่ให้เผาวันคี่ อธิบายในเชิงปริศนาธรรมได้ว่าความตายเป็นของเฉพาะตัว  จะเอาไปให้คนอื่นตายแทนไม่ได้  วันเผาจึงต้องเป็นวันคี่
          นอก จากนี้ยังห้ามเผาศพในวันพฤหัสบดีและวันพระอีกด้วย  เพราะวันพฤหัสบดีถือว่าเป็นวันครู  ไม่ควรให้อัปมงคลเข้ามาเกลือกกลั้วในวันนั้น  สำหรับการเผาศพในวันพระอาจทำให้สัตว์ที่อาศัยอยู่กับศพหรือที่หีบศพพลอยเสีย ชีวิตไปด้วย ถ้าใครตาย  วันเสาร์ ห้ามเผาในวันอังคาร เพราะถือว่าเป็นวันกล้าในคติโหราศาสตร์ ถ้าเผาวันนั้นผีจะดุ การห้ามเผาวันคู่ในข้างขึ้น เผาวันคี่  ในข้างแรม ในระยะ ๗ วัน วันแรกเป็นแรม ๑ ค่ำ เป็นวันจันทร์  ก็จะเผาได้แต่วันอังคาร วันพฤหัสบดี วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ถ้าวันศุกร์และวันพฤหัสบดีห้ามเผาด้วย  ก็เหลือแต่วันอังคาร  และวันเสาร์  ที่เผาผีได้  ถ้าเผอิญศพนั้นตายวันเสาร์ ก็ต้องตัดวันอังคาร  ออกวันหนึ่ง เหลือแต่วันอาทิตย์เพียงวันเดียวใน  ๗  วัน
          แต่ในสมัยนี้ไม่ค่อยเคร่งครัดเหมือนแต่ก่อน เท่าที่ถือกันอยู่  คือห้ามเผาผีวันศุกร์ ในกรุงเทพฯ นั้น  วัดดัง ๆ ส่วนมากเมรุไม่ค่อยว่าง  ต้องจองคิวกันนาน  จึงอนุโลมเผากันทุกวัน  วันละหลาย ๆ  รอบด้วยซ้ำ

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สร้างความสำเร็จในการทำงาน...ด้วยตัวคุณเอง



เชื่อว่าเมื่อคนทุกคนก้าวเข้าสู่ช่วงวัยของการทำงานแล้ว..แต่ละคนย่อมมีความต้องการและความคาดหวังให้งาน
ของตนประสบผลสำเร็จ โดยจะมีแนวทางและวิธีการในการสร้างความสำเร็จในหน้าที่การงานที่แตกต่างกันไป
บางคนชอบเอาใจและหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจจากหัวหน้างาน เพราะคิดว่าหัวหน้างานสามารถสนับสนุน
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นให้กับตนเองได้ แต่บางคนประสบความสำเร็จได้จากการสนับสนุนของทีมงานโดยพยายามทำทุกวิถีทาง
ให้สมาชิกในทีมรักใคร่..เพื่อว่าจะได้สนับสนุนให้ตนเองประสบความสำเร็จใน หน้าที่การงานตามที่มุ่งหวังไว้ สำหรับบางคน
เชื่อไสยศาสตร์ อาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย… และก็ยังมีอีกหลายต่อหลายคนที่มีความต้องการและความมุ่งหวังที่จะให้หน้าที่ การงาน
ของตนประสบความสำเร็จด้วยความสามารถและฝีมือของตัวเอง ความสำเร็จด้วยฝีมือของเราเองจะเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ
ที่สุดในชีวิต ดังนั้นในส่วนนี้จึงขอนำเสนอเทคนิคและวิธีการเพื่อการสร้างความสำเร็จในการทำงานด้วยตัวคุณเอง
ตามหลักการง่าย ๆ ของ " D-E-V-E-L-O-P " ดังนี้
D Development ไม่หยุดยั้งการพัฒนา
E Endurance มุ่งเน้นความอดทน
V Versatile หลากหลายความสามารถ
E Energetic กระตือรือร้นอยู่เสมอ
L Love รักงานที่ทำ
O Organizing จัดการเป็นเลิศ
P Positive Thinking คิดแต่ทางบวก

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557

M 200 CheyTac ปืนซุ้มยิงที่ดีที่สุด


M 200 ผลิตโดย บริษัท CheyTac Intervention ประเทศสหรัฐอเมริกา เมืองหลวงของพลซุ่มยิง เข้าสู่สายการผลิตตั้งแต่ 2001 ถึง ปัจจุบัน
M 200 เป็นสไนเปอร์ ระบบ Bolt Action คือขึ้นลำยิงได้ทีละ 1 นัด ใช้กระสุนที่ผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะ ขนาด .408 CheyTac
1 Magazine ใส่กระสุนสังหารได้ 7 ลูก ระยะที่ยิงไกลที่สุด อยู่ 2,300 เมตร บร๊ะเจ้าโจ๊ก โคตรไกล เป็นปืนซุ่มยิงที่ยิงได้ไกลที่สุดในโลก ขณะนี้
สถิติการยิง จากการทดสอบ โดยมือ Sniper ระดับพระกาฬของหน่วย SEAL USA
สามารถ ยิงโดน 3 นัดจาก 6 นัด ในเป้าบุคคล ระยะ 2313 เมตร (บร๊ะเจ้า)
ความแม่นยำและระยะหวังผล
สังหารบุคคล หวังผลในระยะ 1830 เมตร
กลุ่มกระสุน 18-23 cm ที่ 914 เมตร
ไกลขึ้นกลุ่มกระสุนก็กว้างขึ้นนะครับ
และใช้เวลาบรรจุ ขึ้นลำ และยิงซ้ำ ใน 1 นาที
ความเทพของ M 200 ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะทางบริษัท CheyTac ไม่ได้ต้องการแค่วความเทพ CheyTac ต้องการอาวุธที่เทียบเคียงบร๊ะเจ้าโจ๊ก (ผมบรรยายเวอร์ไปมั้ยเนี่ย) ประกอบด้วย
- Long Range Rifle System : ระบบคอมพิวเตอร์ที่ชี้ระยะ วัดลม กำหนดยิง
- Muzzle Break and Suppressor : ระบบลดแรงสะท้อน
- ระบบตรวจจับ
- ระบบชี้เป้าด้วย LASER
ฯลฯ
มีปืนกับสโคปก็เทพแล้ว นี่ยังมี Computer ให้อีก
อื่นๆ
ประจำการในกองทัพ : เป็นความลับ
ราคา : เป็นความลับ

PHP MySQL แสดงข้อมูลจากฐานข้อมูล ตอนที่ 1

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

10 หนุ่มพรหมจารี แห่งประวัติศาสตร์

10 หนุ่มพรหมจารี แห่งประวัติศาสตร์

1 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดธรรมสักขี แห่งอังกฤษ (St.Edward the Confessor KING OF ENGLAND)
ทรงไม่เคยเสวยสุขทางเพศกับพระราชินีอีดิธ ผู้เป็นพระมเหสีเลยสักครั้ง ศาสนาคริสต์เรียกว่า การสมรสแบบไร้มลทิน อันเป็นที่มาของฉายาอันไม่น่าเบิกบานพระหฤทัยแก่พระมเหสีว่า “ราชินี พรหมจารี” มีข้อสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์กันว่า พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดทรงพิทักษ์รักษาพรหมจรรย์อันเนื่องมาจากความเคร่งในทาง ศาสนา หรือเป็นเพราะว่า....ท่านไม่ทรงหลงใหลในสตรีเพศกันแน่? แต่ประวัติศาสตร์ จารึกไว้ว่า พระองค์ทรงมีจริยาวัตรอันงดงามบริสุทธิ์ และในปี ค.ศ.1161 ทรงเป็นกษัตริย์อังกฤษพระองค์แรกที่ได้รับแต่งตั้งเป็น “นักบุญ” อย่างเป็นทางการ ทรงเป็นนักบุญของบรรดาคู่หย่าร้างและการแต่งงานที่ไม่มีความสุขไปซะงั้น
 
 
 
2 เซอร์ ไอแซค นิวตัน (SirIsaac Newton)
นักคณิตศาสตร์ นักฟิสิกส์ ผู้ค้นพบ “กฎแรงโน้มถ่วง” ไม่ยอมถูกดึงดูดด้วยความสุขสำราญของคาวโลกีย์ เขาครองตัวเป็นโสดตลอดชาติ มีนิสัยเคร่งขรึม และเคร่งครัดในศีลธรรม ว่ากันว่า เขาเคยหัวเราะเพียงครั้งเดียวในชีวิต! เพื่อนคนหนึ่งถูกเขาตัดสัมพันธ์ด้วยโทษฐานเล่าเรื่องตลกทะลึงตึงตังเกี่ยว กับแม่ชีให้ฟัง
 
 
3 นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla)
นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ถือเป็นบิดาของอุปกรณ์ไฟฟ้าและการสื่อสารไร้สาย เขาหลีกเลี่ยงสายสัมพันธ์สวาททุกรูปแบบ เพราะเชื่อว่าเซ็กซ์เป็นตัวดูดกลืนพลังความคิดสร้างสรรค์ เมื่อนักข่าวถามว่า ทำไมเขาไม่แต่งงาน
เทสลาตอบว่า “ผมว่า ผลงานประดิษฐ์กรรมดี ๆ ที่สร้างขึ้นโดยชายที่แต่งงานแล้วนั้น ..หาแทบไม่มี...”
 
 
4 ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน (Hans Christian Andersen)
นักเขียนเทพนิยายชื่อดังอมตะ เคยไปใช้บริการโสเภณีบ้าง แต่กลับหมกมุ่นอยู่แค่
กิจกรรมบนโต๊ะ เขาให้บรรดาสาวบริการมานั่งคุยด้วยเท่านั้น ลือกันว่าเขาน่าจะชอบเพศเดียวกันเขาไม่เคยแต่งงาน และตายไปพร้อมกับความบริสุทธิ์ทุกกระเบียดนิ้ว

วิธีล้างปลาไม่ให้คาว

สำหรับใครหลายคนที่ยังไม่รู้จักกับ วิธีล้างปลาไม่ให้คาว ล่ะก็วันนี้ได้เฮแล้วนะครับเพราะด้วย เคล็ดลับ วิธีล้างปลาไม่ให้คาว นี้นอกจากจะช่วยดับกลิ่นคาวของปลาอันไม่พรึงประสงค์แล้ววิธีล้างปลาไม่ ให้คาวยังช่วยให้การล้างปลาของคุณสะอาดมากยิ่งขึ้นอีกด้วยซึ่งจะลดปัญหาของ เมือกปลาที่ไหลย้อยและลดการลื่นของเมือกปลาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ นั้นไม่รอช้ามาฟังเคล็ดลับ วิธีล้างปลาไม่ให้คาว กันเลยดีกว่าครับ
Exif_JPEG_PICTURE
วิธีล้างปลาไม่ให้คาว
  •  ล้างน้ำสะอาดแบบธรรมดาก่อน 1 รอบ
  •  เอาเงือกปลาออกและขัดในท้องปลาให้สะอาดจากนั้นก็ล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้งให้สะอาด
  •  ขั้นตอนสุดนำแป้งมัน 1 ช้อนชา ลูบไล้ให้ทั่วตัวปลาทั้งหมด พักไว้ 1 นาที แล้วล้างน้ำสะอาดออก
ด้วยวิธีนี้จะช่วยให้ปลาไม่คาวและลดเมือกของปลาไปได้เยอะเลยครับ

กรมสรรพากร ประกาศสอบแข่งขันเพื่อบรรจเข้ารับราชการ จำนวน 3 ตำแหน่ง 187 อัตรา



กรมสรรพากร ประกาศสอบแข่งขันเพื่อบรรจเข้ารับราชการ จำนวน 3 ตำแหน่ง 187 อัตรา ระหว่างวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557 ถึง 19 กันยายน พ.ศ. 2557



1. เจ้าพนักงานสรรพากรปฏิับัติงาน
อัตราเงินเดือน : ตามที่ ก.พ. กำหนด บาท
ประเภท : ทั่วไป ระดับปฏิบัติงาน
จำนวนตำแหน่งว่าง : 120 ตำแหน่ง
ระดับการศึกษา : - ปวส.
- อนุปริญญา
รายละเอียดวุฒิ : ประกาศนีย บัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรืออนุปริญญาหลักสูตร 3 ปี ต่อจากประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชาการเงินและการธนาคาร สาขาวิชาการตลาด สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สาขาวิชาธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ สาขาวิชาภาษาต่างประเทศธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก สาขาวิชาการจัดการธุรกิจท่องเที่ยว สาขาวิชาการจัดการทั่วไป สาขาวิชาการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ สาขาวิชาการเลขานุการ สาขาวิชาการโรงแรมและบริการ สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ หรือสาขาวิชาบริหารธุรกิจ และเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ในระดับเดียวกันกับคุณวุฒิที่ใช้สอบ หรือสูงกว่า ของ ก.พ. แล้ว
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ : ลักษณะงานที่ปฏิบัติ 
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้นซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ผู้สำเร็จการ ศึกษาระดับปริญญา ปฏิบัติงานด้านสรรพากร ตามแนวทาง แบบอย่าง ขั้นตอน และวิธีการที่ชัดเจน ภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย 
1. ด้านการปฏิบัติการ 
(1) รับแบบแสดงรายการ คำร้อง คำขอรับใบอนุญาต และตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของเอกสารหลักฐานต่าง ๆ และตรวจสอบ ควบคุมการตรวจแยกแฟ้มแสดงรายการและเอกสารที่แนบ พิจารณาคำร้องคำขอหรือเรื่องราวอื่น ๆ ในชั้นต้น เพื่อดำเนินการออกใบอนุญาตต่าง ๆ ตามที่ยื่นเรื่องขอไว้ 
(2) เก็บรักษาหรือค้นหาหลักฐานและเรื่องอื่น ๆ ของผู้เสียภาษีและผู้ประกอบการ และรวบรวมข้อมูล เพื่อจัดทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชา 
(3) ควบคุม ตรวจสอบโรงงานในด้านการผลิต การบรรจุภาชนะ การปิดแสตมป์อากร 
การขนส่งและการจัดจำหน่าย เพื่อพิจารณาออกใบอนุญาตในการดำเนินงาน 
(4) เร่งรัดภาษีอากรค้าง พิจารณาคืนภาษี ยกเว้นภาษี หรือเรียกค่าปรับ เพื่อเรียกเก็บภาษี 
(5) รับเบิกจ่าย เก็บรักษา นำส่งเงิน แสตมป์อากรและแบบพิมพ์ ออกหลักฐาน ลงบัญชี และทะเบียนต่าง ๆ เพื่อเก็บรักษาหลักฐานต่าง ๆ ไว้เป็นข้อมูลของหน่วยงาน 
(6) ปรับปรุง แก้ไข ติดตาม ประเมินผลและแก้ปัญหาขัดข้องในการปฏิบัติงานใน หน่วยงาน 
ที่รับผิดชอบ เพื่อให้การดำเนินงานภายในหน่วยงานสำเร็จลุล่วง 
(7) ช่วยคำนวณเกี่ยวกับภาษีอากรที่ไม่ยุ่งยาก ลงรหัสในแบบแสดงรายการเสียภาษีประมวลสถิติเกี่ยวกับภาษี เพื่อเป็นข้อมูลในการเก็บภาษีและเป็นข้อมูลในการดำเนินงานอื่น ๆ 
(8) ร่วมสอดส่องและตรวจการธุรกิจในอำเภอ/จังหวัด เพื่อควบคุม ดูแลการดำเนินงาน และการจ่ายภาษีของธุรกิจ/ผู้เสียภาษีนั้น ๆ 
(9) ออกกำหนดรายรับขั้นต่ำในกิจการขนาดเล็กถึงใหญ่ 
(10) รวบรวมข้อมูลการปฏิบัติงาน เพื่อจัดทำรายงาน และเสนอผู้บังคับบัญชาในหน่วยงาน 
2. ด้านการบริการ 
(1) ให้คำแนะนำเกี่ยวกับระเบียบและวิธีการปฏิบัติงานที่อยู่ในความรับผิดชอบแก่ ผู้ร่วมงานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความเข้าใจอันดีในการปฏิบัติงาน และให้การดำเนินงานสำเร็จลุล่วง 
(2) ประสานงานกับบุคคลภายในหน่วยงานเดียวกัน ต่างหน่วยงาน หรือประชาชนทั่วไป เพื่อให้บริการ หรือขอความช่วยเหลือในด้านที่ตนรับผิดชอบ 
ความรู้ที่จำเป็น(วิชาที่สอบ) : หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขันเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง 
ทดสอบความรู้ความสามารถโดยวิธีการสอบข้อเขียนแบบปรนัย จำนวน 100 ข้อ คะแนนเต็ม 200 คะแนน ใช้เวลาสอบ 3 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้ 
1. ส่วนที่ 1 ทดสอบความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการปฏิบัติงานสรรพากร และความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับภาษีอากรและกรมสรรพากร จำนวน 70 ข้อ คะแนนเต็ม 140 คะแนน 
2. ส่วนที่ 2 ทดสอบความรู้ ทักษะ เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ (Structure, Vocabulary, Reading Comprehension) จำนวน 30 ข้อ คะแนนเต็ม 60 คะแนน 

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ผักขะแยง(ผักพื้นบ้านอีสาน)

ผักแขยง ผักขะแยง ผักกะแยง (ผักพื้นบ้านอีสาน)


วันนี้ขอแนะนำ ผักพื้นบ้านอีสาน ที่มีชื่อว่า ผักแขยง (ผักขะแยง) ซึ่งอาหารพื้นเมืองของภาคอีสานส่วนใหญ่มักปรุงรสหรือชูรสด้วยผักพื้นบ้านอีสาน ซึ่งมีกลิ่นและรสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เรามารู้จักกันหน่อยว่า ผักแขยง (ผักขะแยง) มีลักษณะและสรรพคุณทางยาเป็นอย่างไร
 
ชื่อสามัไทย : ผักแขยง (ผักขะแยง)
ชื่ออื่นที่เรียกกัน : กะออม กะแยง (ตะวันออกเฉียงเหนือ), กะแยงแดง (อุบลราชธานี), ผักกะแยง กระแยง (อุดรธานี), ขะแยง (อุบลราชธานี,มุกดาหาร), ผักพา (ภาคเหนือ), มะอม ปะกามะออม (เขมร)
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Limnophila geoffrayi Bonati
ชื่อวงศ์ : Scorphulariaceae


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นผักแขยง ผักขะแยง

ผักขะแยง ผักแขยง ผักกะแยง เป็นผักพื้นบ้านอีสาน ที่มีลักษณะคือเป็น พืชล้มลุกอายุปีเดียว เป็นผักที่ขึ้นเองตามคันนา ในฤดูทำนา เริ่มจากฝนลงครั้งแรก ขยายพันธุ์แบบไหลไปตามราก เกิดและแตกต้นออกเป็นกอ ขนาดเล็กประมาณ 30-40 ซม. ลำต้นสีเขียว กลวงเห็นปล้องชัดเจน ลำต้นทั้งต้นจะมีกลิ่นหอมหรือกลิ่นฉุนรุนแรง ใบเดี่ยว ขนาดเล็ก ออกเป็นคู่ตรงกันหรืออาจมี 3 ใบ ออกอยู่รอบ ๆ ข้อรูปใบหรือรูปขอบขนาน หรือรูปหอกใบยาว 1.5-5 ซม. กว้าง 1-2 ซม. ไม่มีก้านใบฐานใบจะหุ้มลำต้นเอาไว้ ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ด้านบนของใบมีต่อมเล็ก ๆ มากมาย ดอกเป็นดอกเดี่ยวออกตรงซอกใบ หรือออกเป็นช่อกลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวมีขน กลีบดอกสีแดง สีชมพูอ่อน หรือสีม่วง กินได้ตลอดลำต้น เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าว ผักขะแยงก็เริ่มโรยรา และหายลงใต้ดินในที่สุด รอวันฝน ลงอีกครั้งในพรรษาหน้า

ผักขะแยงชอบดินดำน้ำชุ่ม ดังนั้นจึงสามารถนำผักขะแยงมาปลูกได้ เนื้อที่ที่มีน้ำขังตลอดปี ผักขะแยงก็สามารถขึ้นงอกงามได้ตลอดปีเช่นกัน แต่เพราะผักขะแยง เป็นผักที่ขึ้นตามธรรมชาติ เป็นสัญลักษณ์ฤดูกาลทำนา ชาวบ้านหลายท้องถิ่นทางภาคอีสานไม่นิยมนำมาปลูก อยากกินก็ไปเก็บเอาจากท้องนา

แต่บางแห่งในภาคอีสานแถบลุ่มแม่น้ำโขง ก็นำมาปลูกตามริมบึง หรือแม้แต่ในกระถาง กะละมังแตกใต้ลุ่มบ้านตรงที่ล้างผัก ล้างปลา เพื่อให้ได้น้ำที่ไหลลงจากชานครัว ผักขะแยงก็จะงามสะพรั่ง บางแห่งก็มีการเก็บตามท้องไร่ท้องนามัดเป็นกำ ๆนำไปขายในตลาดในหมู่บ้าน ในอำเภอ หรือในเมือง สนนราคาก็ถูกมาก ปัจจุบันเกษตรกรนำมาปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ จึงมีผักขะแยงขายตามตลาดในกรุงเทพบ้างเช่นกัน

ผักขะแยงกินได้หลายแบบแล้วแต่ท้องถิ่น อีสานตอนบนติดกับลำน้ำโขง คืออุดรธานี อุบลราชธานี หนองคาย จะมีการกินผักขะแยงสดเป็นผักจิ้ม เช่นจิ้มน้ำพริก กินกับก้อยปลา ลาบ หรือนำมาใส่ต้มหรือแกงปลา แกงหน่อไม้ ย่านาง แกงหอยขม เพราะกลิ่นจะดับคาวได้เป็นอย่างดี ส่วนอีสานตอนกลางเช่น ชัยภูมิ โคราช ขอนแก่น ไม่นิยมกินสด ๆ 

ผักพื้นบ้าน
ผักแขยง ผักขะแยง ผักกะแยง (ผักพื้นบ้านอีสาน)


สรรพคุณของผักแขยง (ผักขะแยง)

คั้นน้ำจากต้นแก้ไข้ ทั้งต้นเป็นยาขับน้ำนม ขับลม และเป็นยาระบาย
ผักขะแยงมีรสเผ็ดร้อน มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ช่วยเจริญอาหาร
ผักขะแยง 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 32 กิโลแคลอรี่ มีเส้นใยอาหาร 105 กรัม แคลเซียม 55 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 62 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 62 มิลลิกรัม เหล็ก 502 มิลลิกรัม วิตามินปีหนึ่ง 0.02 มิลลิกรัม วิตามิบีสอง 0.87 มิลลิกรัม ไนอาซิน 0.6 มิลลิกรัมและวิตามินซี 5 มิลลิกรัม

วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2557

ลบไฟล์ขยะ หลังจากเลิกเล่นเน็ต ช่วยลดปัญหาไวรัสได้

เวลาเราเข้าเว็บไซต์ต่างๆ โปรแกรม IE ก็จะทำการ download ข้อมูลมาเก็บไว้ในเครื่องของเราก่อน จากนั้นถ้าเราเลิกเล่น ไฟล์เหล่านี้ก็จะค้างในเครื่องของเรา นอกจากปัญหาไฟล์ในเครื่องที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้เนื้อที่ใน harddisk ของเราไม่เพียงพอแล้ว อาจมีไวรัสแอบแฝงเข้ามาในเครื่องคอมฯ ของเราได้ด้วย ดังนั้นวิธีการจัดการอย่างหนึ่งที่ง่ายก็คือ กำหนดให้โปรแกรม IE ลบไฟล์ขยะเหล่านี้อัตโนม้ติทุกครั้งที่ปิดโปรแกรม สำหรับขั้นตอนก็สั้นๆ ครับ เพียงทำตามรายละเอียดข้างล่างนี้
วิธีกำหนดให้ลบไฟล์ขยะจากอินเตอร์เน็ตแบบอัตโนมัติ

1.คลิกเมนู Tools
2.เลือกคำสั่ง Internet Options
3.คลิกเลือกแท็ป Advanced
4.เลื่อนลงมาที่หัวข้อ Security
5.จากนั้น คลิกหัวข้อ Empty Temporaly Internet Files Folder when browser is closed

6.กดปุ่ม Apply อีกครั้งเพื่อยืนยัน
7.แล้วนี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

คอมพิวเตอร์ชอบรีสตาร์ทบ่อย ๆ สาเหตุเกิดจากอะไร


ปัญหาคอมพิวเตอร์ชอบรีสตาร์ทบ่อย ๆ หลายครั้งมักเกิดหลังจากการอัพเกรดอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าไปใหม่ โดยส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้แรมคนละยี้ห้อ หรือมีบัสที่แตกต่างจากแรมที่มีอยู่เดิม ดังนั้นการตรวจเช็คจึงควรถอดแรมที่อัพเกรดเข้าไปใหม่ออกเสียก่อน แล้วจึงทดลองใช้งานหากปัญหานี้หมดไป นั่นแสดงว่าป็นเพราะแรมตัวใหม่ นั่นเอง

นอกจากแรมแล้วยังมีอุปกรณ์อีกตัวหนึ่งซึ่งอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องชอบรีสตาร์ทอยู่บ่อยนั่นคือเพาเวอร์ซัพพลาย หากภายในเคสของเรามีการติดตั้งอุปกรณ์มากเกินไปและแต่ละตัวก็ล้วนกินไฟค่อนข้างมาก เช่น ติดตั้ง ฮาร์ดดิสก์ 2 ตัว หรือติดตั้งการ์ดจอ 3 มิติราคาแพง อุปกรณ์เหล่านี้อาจทำให้เพาเวอร์ซัพพลายจ่ายไฟไม่เพียงพอจนทำให้เครื่องต้องรีสตาร์ทใหม่อยู่บ่อย ๆ ทางแก้คือให้เปลี่ยนเพาเวอร์ซัพพลายตัวใหม่ที่มีวัตต์สูงกว่าเดิม