วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

การห้ามเผาศพในวันศุกร์


เสฐียรโกเศศเล่าไว้ในหนังสือ  'การตาย' ว่า  การห้ามเผาศพในวันศุกร์นั้น  เป็นสิ่งที่ฝรั่งเรียกว่า sympathetic magic คือ สิ่งใดมีลักษณะคล้ายคลึงกัน สิ่งนั้นก็เป็นผลเหมือนกัน วันศุกร์ชื่อก็บอกว่า  สุข  ถึงจะมีคำแปลต่างกัน แต่เสียงเหมือนกันก็ขึ้นชื่อว่า  สุขอยู่นั่นเอง  ถือกันว่าเป็นวันดี
          การ เผาผีถือเป็นเรื่องไม่เป็นมงคล ถ้าเผาในวันศุกร์ ก็อาจจะถูกลากให้ความสุขได้รับอิทธิพลของความไม่เป็นมงคล ทำให้กลายเป็นทุกข์ไปได้ บางทีก็เชื่อกันว่า 'เผาผีวันศุกร์ให้ทุกข์แก่ญาติ'
          แต่ ก่อนถือกันว่า  ห้ามเผาศพในวันคู่ข้างขึ้น  วันคี่ข้างแรมเป็นอัปมงคล เรียกว่า ผีเผาคน ต้องเผาวันคี่ข้างขึ้น วันคู่ข้างแรม  เรียกว่า  คนเผาผี เพราะแรม  ๑  ค่ำ  เท่ากับวันที่  ๑๖  ของเดือนกลายเป็นวันคู่ไป  ส่วนวันแรม ๒ ค่ำ เท่ากับวันที่  ๑๗  ของเดือนกลายเป็นวันคี่ไป เพราะฉะนั้นการเผาวันคู่ในข้างแรมจึงเท่ากับเป็นวันคี่เหมือนกัน ที่ให้เผาวันคี่ อธิบายในเชิงปริศนาธรรมได้ว่าความตายเป็นของเฉพาะตัว  จะเอาไปให้คนอื่นตายแทนไม่ได้  วันเผาจึงต้องเป็นวันคี่
          นอก จากนี้ยังห้ามเผาศพในวันพฤหัสบดีและวันพระอีกด้วย  เพราะวันพฤหัสบดีถือว่าเป็นวันครู  ไม่ควรให้อัปมงคลเข้ามาเกลือกกลั้วในวันนั้น  สำหรับการเผาศพในวันพระอาจทำให้สัตว์ที่อาศัยอยู่กับศพหรือที่หีบศพพลอยเสีย ชีวิตไปด้วย ถ้าใครตาย  วันเสาร์ ห้ามเผาในวันอังคาร เพราะถือว่าเป็นวันกล้าในคติโหราศาสตร์ ถ้าเผาวันนั้นผีจะดุ การห้ามเผาวันคู่ในข้างขึ้น เผาวันคี่  ในข้างแรม ในระยะ ๗ วัน วันแรกเป็นแรม ๑ ค่ำ เป็นวันจันทร์  ก็จะเผาได้แต่วันอังคาร วันพฤหัสบดี วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ถ้าวันศุกร์และวันพฤหัสบดีห้ามเผาด้วย  ก็เหลือแต่วันอังคาร  และวันเสาร์  ที่เผาผีได้  ถ้าเผอิญศพนั้นตายวันเสาร์ ก็ต้องตัดวันอังคาร  ออกวันหนึ่ง เหลือแต่วันอาทิตย์เพียงวันเดียวใน  ๗  วัน
          แต่ในสมัยนี้ไม่ค่อยเคร่งครัดเหมือนแต่ก่อน เท่าที่ถือกันอยู่  คือห้ามเผาผีวันศุกร์ ในกรุงเทพฯ นั้น  วัดดัง ๆ ส่วนมากเมรุไม่ค่อยว่าง  ต้องจองคิวกันนาน  จึงอนุโลมเผากันทุกวัน  วันละหลาย ๆ  รอบด้วยซ้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น