วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ทำไมปาท่องโก๋ต้องมีสองข้าง


ทำไมปาท่องโก๋ต้องมีสองข้าง
   ตำนานปาท่องโก๋มีที่มาจากนายทหารจีนผู้หนึ่ง นามว่า งักฮุยรับราชการในแผ่นดินพระเจ้าเกาจง งักฮุยเป็นนายทหารที่ซื่อสัตย์เข้มแข็ง ช่วยแผ่นดินปราบกบฏ รบกองโจร เป็นที่รักใคร่ของประชาชนทั่วไป ศึกครั้งสำคัญก็คือการทำสงครามกับพวกกิม ซึ่งเป็นชนชาติเร่ร่อนพเนจรแถบภาคอีสานของจีนใกล้กับเกาหลี งัก ฮุยรบจนเกือบชนะอยู่แล้ว แต่ก็ได้รับพระบรมราชโองการให้ยกทัพกลับ ทั้งนี้เนื่องจากฉิ่งไขว่ มหามนตรีผู้ลอบสวามิภักดิ์ต่อพวกกิมคอยเพ็ดทูลยุยงส่งเสริมพระเจ้าเกาจงให้ เจรจายุติสงครามกับพวกกิมงักฮุยเสียใจมากถึงกับกล่าวว่าเสียแรงที่เราบากบั่นต่อสู้พวกกิมด้วยความยากลำบากเป็นเวลาถึง ๑๐ ปี ความอุตสาหะนั้นจะต้องพินาศลงชั่วเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น
     ครั้นกลับมาแล้วก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นข้าราชการชั้นองคมนตรีแต่ฉิ่งไขว่และพรรคพวกได้คอยหาโอกาสกำจัดงักฮุยเสีย จึง คอยใส่ร้ายป้ายสีหาว่างักฮุยคิดกบฏ จนในที่สุดงักฮุยและบุตรถูกจับไปจำขังอยู่ในเรือนจำเป็นเวลา ๒ เดือน แต่รูปคดีไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะงักฮุยไม่มีความผิดแต่ประการใด ฉิ่งไขว่จึงลอบมีหนังสือลับไปยังพัสดีเรือนจำให้สังหารงักฮุยเสีย
     การ สิ้นชีพอย่างน่าอนาถของวีรบุรุษงักฮุยผู้นี้จึงกลายเป็นธรรมเนียมของประชาชน ชาวจีนให้นำแป้งสาลีมาปั้นเป็นชิ้นสองชิ้นติดกันแล้วทอดน้ำมัน เรียกว่า 'อิ้วจาก้วย' (ไทยเรียกเพี้ยนเป็น  'ปาท่องโก๋ซึ่งที่จริงแล้วเป็นขนมคนละชนิดกัน) ทั้งนี้เพื่อแสดงความเคียดแค้นในตัวฉิ่งไขว่  โดยเปรียบเนื้อแปังสาลีเป็นเนื้อของฉิ่งไขว่และภรรยานำมาทอดน้ำมันกินให้หายแค้น

การห้ามเผาศพในวันศุกร์


เสฐียรโกเศศเล่าไว้ในหนังสือ  'การตาย' ว่า  การห้ามเผาศพในวันศุกร์นั้น  เป็นสิ่งที่ฝรั่งเรียกว่า sympathetic magic คือ สิ่งใดมีลักษณะคล้ายคลึงกัน สิ่งนั้นก็เป็นผลเหมือนกัน วันศุกร์ชื่อก็บอกว่า  สุข  ถึงจะมีคำแปลต่างกัน แต่เสียงเหมือนกันก็ขึ้นชื่อว่า  สุขอยู่นั่นเอง  ถือกันว่าเป็นวันดี
          การ เผาผีถือเป็นเรื่องไม่เป็นมงคล ถ้าเผาในวันศุกร์ ก็อาจจะถูกลากให้ความสุขได้รับอิทธิพลของความไม่เป็นมงคล ทำให้กลายเป็นทุกข์ไปได้ บางทีก็เชื่อกันว่า 'เผาผีวันศุกร์ให้ทุกข์แก่ญาติ'
          แต่ ก่อนถือกันว่า  ห้ามเผาศพในวันคู่ข้างขึ้น  วันคี่ข้างแรมเป็นอัปมงคล เรียกว่า ผีเผาคน ต้องเผาวันคี่ข้างขึ้น วันคู่ข้างแรม  เรียกว่า  คนเผาผี เพราะแรม  ๑  ค่ำ  เท่ากับวันที่  ๑๖  ของเดือนกลายเป็นวันคู่ไป  ส่วนวันแรม ๒ ค่ำ เท่ากับวันที่  ๑๗  ของเดือนกลายเป็นวันคี่ไป เพราะฉะนั้นการเผาวันคู่ในข้างแรมจึงเท่ากับเป็นวันคี่เหมือนกัน ที่ให้เผาวันคี่ อธิบายในเชิงปริศนาธรรมได้ว่าความตายเป็นของเฉพาะตัว  จะเอาไปให้คนอื่นตายแทนไม่ได้  วันเผาจึงต้องเป็นวันคี่
          นอก จากนี้ยังห้ามเผาศพในวันพฤหัสบดีและวันพระอีกด้วย  เพราะวันพฤหัสบดีถือว่าเป็นวันครู  ไม่ควรให้อัปมงคลเข้ามาเกลือกกลั้วในวันนั้น  สำหรับการเผาศพในวันพระอาจทำให้สัตว์ที่อาศัยอยู่กับศพหรือที่หีบศพพลอยเสีย ชีวิตไปด้วย ถ้าใครตาย  วันเสาร์ ห้ามเผาในวันอังคาร เพราะถือว่าเป็นวันกล้าในคติโหราศาสตร์ ถ้าเผาวันนั้นผีจะดุ การห้ามเผาวันคู่ในข้างขึ้น เผาวันคี่  ในข้างแรม ในระยะ ๗ วัน วันแรกเป็นแรม ๑ ค่ำ เป็นวันจันทร์  ก็จะเผาได้แต่วันอังคาร วันพฤหัสบดี วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ถ้าวันศุกร์และวันพฤหัสบดีห้ามเผาด้วย  ก็เหลือแต่วันอังคาร  และวันเสาร์  ที่เผาผีได้  ถ้าเผอิญศพนั้นตายวันเสาร์ ก็ต้องตัดวันอังคาร  ออกวันหนึ่ง เหลือแต่วันอาทิตย์เพียงวันเดียวใน  ๗  วัน
          แต่ในสมัยนี้ไม่ค่อยเคร่งครัดเหมือนแต่ก่อน เท่าที่ถือกันอยู่  คือห้ามเผาผีวันศุกร์ ในกรุงเทพฯ นั้น  วัดดัง ๆ ส่วนมากเมรุไม่ค่อยว่าง  ต้องจองคิวกันนาน  จึงอนุโลมเผากันทุกวัน  วันละหลาย ๆ  รอบด้วยซ้ำ

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สร้างความสำเร็จในการทำงาน...ด้วยตัวคุณเอง



เชื่อว่าเมื่อคนทุกคนก้าวเข้าสู่ช่วงวัยของการทำงานแล้ว..แต่ละคนย่อมมีความต้องการและความคาดหวังให้งาน
ของตนประสบผลสำเร็จ โดยจะมีแนวทางและวิธีการในการสร้างความสำเร็จในหน้าที่การงานที่แตกต่างกันไป
บางคนชอบเอาใจและหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจจากหัวหน้างาน เพราะคิดว่าหัวหน้างานสามารถสนับสนุน
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นให้กับตนเองได้ แต่บางคนประสบความสำเร็จได้จากการสนับสนุนของทีมงานโดยพยายามทำทุกวิถีทาง
ให้สมาชิกในทีมรักใคร่..เพื่อว่าจะได้สนับสนุนให้ตนเองประสบความสำเร็จใน หน้าที่การงานตามที่มุ่งหวังไว้ สำหรับบางคน
เชื่อไสยศาสตร์ อาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย… และก็ยังมีอีกหลายต่อหลายคนที่มีความต้องการและความมุ่งหวังที่จะให้หน้าที่ การงาน
ของตนประสบความสำเร็จด้วยความสามารถและฝีมือของตัวเอง ความสำเร็จด้วยฝีมือของเราเองจะเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ
ที่สุดในชีวิต ดังนั้นในส่วนนี้จึงขอนำเสนอเทคนิคและวิธีการเพื่อการสร้างความสำเร็จในการทำงานด้วยตัวคุณเอง
ตามหลักการง่าย ๆ ของ " D-E-V-E-L-O-P " ดังนี้
D Development ไม่หยุดยั้งการพัฒนา
E Endurance มุ่งเน้นความอดทน
V Versatile หลากหลายความสามารถ
E Energetic กระตือรือร้นอยู่เสมอ
L Love รักงานที่ทำ
O Organizing จัดการเป็นเลิศ
P Positive Thinking คิดแต่ทางบวก